LIVING WITH NUMBERS
Written by: Ideas Magazine
15 January 2020
Views: 1,049
อิทธิพลของตัวเลขเชื่อมโยงกับองค์ประกอบต่างๆ ในบ้าน ไม่เพียงในแง่ของความเชื่อตามหลักฮวงจุ้ย แต่หากพิจารณาถึงเหตุผลอย่างถ่องแท้ ตัวเลขที่ถูกกำหนดขึ้นนั้นกลับเป็นผลดีต่อการอยู่อาศัย ทั้งในด้านการใช้งานและสุขภาวะที่ดีสำหรับสมาชิกทุกคนในบ้านอีกด้วย
จำนวนห้อง ส่งผลต่อดวงชะตา
คนจีนโบราณเชื่อว่า จำนวนห้องที่เป็นสิริมงคลต่อเจ้าของบ้านนั้นคือ 1, 5, 7 และ 9 ห้อง ซึ่งเป็นจำนวนเลขคี่ เพราะหากเป็นเลขคู่ ในภาษาจีน คำว่า ‘คู่’ จะพ้องกับคำว่า ‘ซวง’ ที่ออกเสียงเหมือนคำว่า ‘บาดเจ็บ’ การนับควรนับรวมทุกห้องภายในบ้าน แต่สำหรับบางบ้านที่จำนวนห้องอาจไม่ตรงกับหลักฮวงจุ้ยก็ไม่ต้องวิตกกังวลไป มีวิธีแก้เคล็ดง่ายๆ คือ ให้หาฉากมากั้นห้องเพิ่มเติม หรือหากไม่ต้องการทำฉากกั้น สามารถใช้เป็นผ้าม่านกั้นพื้นที่แทนได้
Tips
- การกั้นพื้นที่ยังสามารถเชื่อมต่อพื้นที่ได้อย่างปลอดโปร่งและยืดหยุ่น แนะนำให้ใช้ฉากกั้นแบบบานเฟี้ยม หรือประตูบานเลื่อนกระจก
- การติดม่านสำหรับกั้นห้อง ควรเลือกชนิดผ้าที่ถักทออย่างละเอียดและมีความหนาแน่นของเนื้อผ้าเพื่อช่วยกรองแสงได้ในตัว ซึ่งข้อดีของการใช้ผ้าม่านนอกจากจะติดตั้งง่าย ประหยัดแล้ว ยังช่วยเสริมบรรยากาศให้ดูนุ่มนวลขึ้น
ประตู-หน้าต่าง ต้องไม่มากเกินไป
เส้นทางการไหลเวียนของชี่ หรือลม ตามหลักฮวงจุ้ยที่พัดผ่านประตูและหน้าต่าง เปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ในร่างกายคนเรา ถ้าวางไม่ดีการดำเนินชีวิตในบ้านจะไม่ราบรื่น หรือหากมีมากเกินไปเชื่อว่าจะเก็บเงินไม่อยู่ สำหรับบ้านไทยในภูมิอากาศร้อนชื้นที่จำเป็นต้องมีหน้าต่างเพื่อช่วยระบายอากาศ เรามีวิธีคำนวณการติดตั้งประตู-หน้าต่าง โดยควรมีประตู 1 บาน ต่อหน้าต่าง 2 บาน โดยต้องพิจารณาถึงทิศทางลมเป็นสำคัญ รวมถึงขนาดของบ้านก็เป็นปัจจัยในการกำหนดจำนวนประตู-หน้าต่างเพื่อให้เอื้อต่อพื้นที่ใช้สอย ไม่อับทึบ
Tips
- บ้านทุกหลังควรมีประตูหลังบ้านเสมอเพราะบ้านที่ไม่มีประตูหลัง กระแสลมจะไม่สามารถผ่านได้ เมื่อลมไม่เข้าก็จะทำให้บ้านอับชื้น ส่งผลต่อสุขภาพของคนในบ้านได้ง่าย
- ห้ามวางประตูตรงกัน เพราะจะทำให้กระแสลมวิ่งในทางตรง ลมจะพัดเข้าบ้านแรงกว่าปกติ แต่ในทางฮวงจุ้ยลมควรไหลในทางคดเคี้ยวและไหลผ่านได้ทุกห้องตำแหน่งประตูที่ดีจึงควรทแยงมุมกัน ถ้าประตูตรงกันควรหาฉากมากั้นเพื่อกำหนดทิศทางลมไม่ให้พุ่งเป็นเส้นตรง
ตำแหน่งและจำนวนโคมไฟ บอกพลังโชคลาภ
แสงสว่างถือเป็นพลังหยางที่บ่งบอกถึงพลังชีวิต และนำโชคลาภมาสู่บ้าน ตรงข้ามกับพลังหยินซึ่งหมายถึงช่วงเวลากลางคืนที่แสงสว่างน้อย การปล่อยให้บ้านมืดเกินไปจึงเท่ากับการปล่อยให้พลังงานหยินเข้ามาครอบงำ ส่งผลให้คนในบ้านหม่นหมอง อารมณ์ความรู้สึกแย่ และสุขภาพไม่ดีตามมา นอกจากบ้านที่โปร่งโล่งรับแสงธรรมชาติได้อย่างพอดีแล้ว การติดตั้งโคมไฟซึ่งเป็นแสงประดิษฐ์ในตำแหน่งที่เหมาะสม นอกจากจะเสริมดวงชะตาเจ้าบ้านตามหลักฮวงจุ้ยแล้ว แสงสว่างจากหลอดไฟยังช่วยให้เราสามารถทำกิจกรรมในบ้านได้สะดวก ทั้งยังมีผลต่อความรู้สึกในแง่ของความสบายและผ่อนคลาย อันเกี่ยวข้องกับสุขภาพกายและใจด้วยนั่นเอง
Tips
- ห้องทำงานที่ต้องการความกระตือรือร้น มีชีวิตชีวา ควรเลือกใช้โคมไฟที่ให้แสงสว่างไสว เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเคลื่อนไหวและกระฉับกระเฉง
- โคมไฟบริเวณหน้าประตูรั้ว ควรใช้ 2 ดวง เพื่อสร้างความสมดุล โดยวางตำแหน่งไฟไว้ด้านข้างประตูทั้งสองด้าน และควรเปิดไฟให้แสงสว่างตลอดทั้งคืน เพื่อแก้พลังหยินพิฆาตและดึงโชคลาภเข้าสู่บ้าน
- รูปทรงของโคมไฟที่ใช้ในการแก้ฮวงจุ้ยควรเป็นโคมไฟรูปทรงกลมหรือโค้งมน ไม่มีมุมแหลมคมเป็นปลายหอกที่ทิ่มลงมา โดยเฉพาะในห้องนอน
ขั้นบันได ต้องลงด้วยเลขคี่
ตามหลักฮวงจุ้ย เลขคู่คือพลังหยิน ซึ่งหมายถึง ความตาย ส่วนเลขคี่คือพลังหยาง หมายถึง ชีวิต จะเห็นได้จากขั้นบันไดของสุสานที่มักเป็นเลขคู่ ส่วนบันไดบ้านคนเป็นจะต้องเป็นเลขคี่เท่านั้น
การนับขั้นบันไดเริ่มจากขั้นที่ 1 คือ ลูกตั้งที่ไม่นับชานพักหรือพื้นชั้น 1 จากนั้นเราจะนับขึ้นไปเรื่อยๆ ตามลูกตั้งของบันได ทุกๆ ช่วงบันไดจะต้องนับให้ลงจำนวนเลขคี่เสมอ แต่หากมองตามหลักความสมดุลในจังหวะการเดิน เวลาก้าวเท้าขึ้นบันได เท้าไหนก้าวก่อนจะต้องจบด้วยอีกเท้าเสมอเพื่อการทรงตัวสมดุล การออกแบบบันไดเลขคี่จึงรองรับการเดินทุกๆ ลักษณะได้มากกว่าบันไดเลขคู่
Tips
ขนาดลูกตั้ง - ลูกนอนของบันไดที่ช่วยให้ผู้ใช้เดินสบาย ให้คำนวณโดยนำขนาดความสูงของลูกตั้ง + ขนาดความกว้างของลูกนอน ผลลัพธ์ควรมีขนาดเท่ากับ 45 เซนติเมตร
บันไดที่ดีต้องลาดชันไม่เกิน 45 องศา และมีความกว้างที่พอดี เพราะจะทำให้การเดินสะดวก ไม่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ